คนเรานั้น พอทำงานมาได้สักระยะหนึ่ง จะรู้สึกเบื่อความจำเจที่ต้องทำทุกวัน ความเครียดจากการทำงาน จากลูกจ้าง จากเจ้านาย จากเพื่อนร่วมงาน แต่ครั้นจะลาออกหรือเลิกทำก็ไม่ได้ เพราะระหว่างทางที่ผ่านมา ได้สร้างภาระบางอย่างให้เกิดขึ้นไปแล้ว จึงต้องฝืนทนทำงานกันต่อไป
สิ่งที่อยากจะแนะนำ คือ เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย แต่การลดรายจ่ายนั้นมีประสิทธิภาพต่ำกว่าการหารายได้เพิ่ม ดังนั้น เราจึงควรเพิ่มรายได้ให้หลากหลายช่องทางมากยิ่งขึ้น
อย่างต่อมา พยายามเคลียร์หนี้สินให้หมด โดยเริ่มต้นเคลียร์จากเจ้าที่มีดอกเบี้ยมากที่สุดก่อน หรือหากมีหลายเจ้า เจ้าไหนที่สามารถจ่ายแล้วจบได้ก่อนในทันที ให้จบเจ้านั้น เพื่อให้เรามีสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้น มาตัดหนี้เจ้าถัดไป
ระหว่างทาง ให้เรียนรู้เรื่องการลงทุนไว้ตลอดเวลา อย่าไปตั้งแง่กับมัน เพราะสุดท้ายแล้ว ต่อให้เรามีเงินเก็บมากแค่ไหน เราก็ต้องมองหาช่องทางที่เก็บแล้วทำให้เงินมันงอกเงยมากกว่าเงินเฟ้ออยู่ดี
เมื่อเรามีเงินเก็บมากพอจำนวนหนึ่ง เราก็จะนำเงินก้อนนั้นมาก่อดอกออกผลให้กับเรา
ระหว่างทางที่เราเก็บเงินมานั้น หากไม่ยอมเรียนรู้เรื่องการเงิน การลงทุนมาก่อนเลย เราก็ต้องนำเงินของเราไปเสี่ยงหรือเริ่มต้นลงทุนด้วยความไม่รู้ โอกาสที่จะสูญเสียเงินต้นค่อนข้างสูงและเป็นจำนวนเงินที่มาก แต่ถ้าเราเรียนรู้มาระหว่างการเก็บเงินไปด้วย สภาวะจิตใจเราจะค่อย ๆ ปรับตัวตามจำนวนเงินที่เพิ่มขึ้น บวกกับประสบการณ์ที่มากขึ้น ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นเรื่อย ๆ ครับ
ทุกวันนี้ค่าครองชีพมีแต่จะสูงขึ้น เป้าหมายแรกที่อยากให้ทุกคนทำให้ได้ คือ 1 ล้านบาทแรกครับ มันยากสุด เพราะต้องเรียนรู้และฝ่าฝัน แต่ล้านต่อ ๆ ไป มันจะง่ายขึ้น
เมื่อล้านแรกได้แล้ว เงินมันจะเริ่มต้นทำงานด้วยตัวมันเอง อย่างรูปที่นำมาให้ดูนี้ ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีจนถึง 19 พ.ค. 2564 ถ้าใครมีเงินเก็บ 1 ล้าน แล้วลงทุนในกองทุนรวม ก็จะได้รับผลตอบแทนเฉลี่ยแล้ว มีเงินใช้ฟรี ๆ เดือนละประมาณ 25,000 - 30,000 บาท โดยไม่ต้องทำงานเลยทีเดียวครับ
เป็นกำลังให้กับทุกคน เพื่อที่จะผ่านช่วงเวลาแย่ ๆ เหล่านี้ไปให้ได้ครับ 😁